ข่าวประชาสัมพันธ์

กรมการขนส่งทางบก ยกระดับ!!! มาตรการตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสาร ก่อนเข้ากรุงเทพมหานครเพิ่มจุดตรวจใน 15 จังหวัด ทั้งขาเข้าและขาออก


รายละเอียดประชาสัมพันธ์
จำนวนเข้าดู 1949

กรมการขนส่งทางบก ยกระดับ!!! มาตรการตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสาร ก่อนเข้ากรุงเทพมหานครเพิ่มจุดตรวจใน 15 จังหวัด ทั้งขาเข้าและขาออก รวมทั้งบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ เตือน!! พบรถควันดำ ลงโทษขั้นสูงสุดทุกราย พ่น “ห้ามใช้” และให้นำรถไปแก้ไขก่อนนำกลับมาวิ่งให้บริการ

                    วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2562) เวลา 11.00 น. ณ จุดตรวจควันดำบริเวณศูนย์โตโยต้ารังสิต ฝั่งขาออก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงานตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียรถยนต์ทุกประเภท เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภายใต้นโยบาย One Transport ปลอดฝุ่น PM2.5 ของกระทรวงคมนาคม

                 นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดตรวจสภาพรถที่ใช้งานบนท้องถนนให้มีสภาพพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย รวมถึงมีค่าควันดำจากท่อไอเสียรถยนต์ไม่เกินค่ามาตรฐาน เพื่อการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้วยการส่งผู้ตรวจการลงพื้นที่สุ่มตรวจค่าควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีค่ามลพิษสูง เช่น พื้นที่ในเขตจตุจักร เขตบางขุนเทียน, บางคอแหลม, ลาดกระบัง, ท่าเรือคลองเตย, บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ฯลฯ และการตรวจค่าควันดำในรถโดยสารเอกชนร่วมบริการ ขสมก. และ บขส. ณ อู่รถโดยสาร ขสมก.ทุกแห่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับความเข้มข้นในการแก้ปัญหาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกจะตั้งจุดตรวจควันดำเพิ่มเติมในจังหวัดรอยต่อบนถนนสายหลักและสายรองทุกเส้นทางที่มีรถบรรทุกและรถโดยสารมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานครใน 15 จังหวัด เพื่อควบคุมรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปทุมธานี นนทบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี รวมถึงเส้นทางที่ใช้เชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั้งขาเข้าและขาออก อาทิ เส้นทางสายเหนือบนถนนบางปะอิน ตลิ่งชัน-สุพรรณ, เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ บนถนนรังสิต-นครนายก ลำลูกกา, เส้นทางสายใต้บนถนนพระราม 2 เพชรเกษม บรมราชชนนี, เส้นทางสายตะวันออกบนถนนบางนาตราด สุขุมวิท มอเตอร์เวย์ เป็นต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบควันดำของรถบรรทุกที่เข้าออกสถานีขนส่งสินค้าและสุ่มตรวจการดำเนินการของสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ควบคู่กับการติดตามการทำงานของ ตรอ. อย่างใกล้ชิดผ่านศูนย์ควบคุมระบบตรวจสภาพรถ (VICC) นอกจากนี้ ยังได้โดยมอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศตรวจวัดควันดำรถโดยสารสาธารณะและรถอื่นๆ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร บนถนนสายต่างๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด หากพบมีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐาน ให้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุดทุกราย และพ่น “ห้ามใช้” รถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานทันที และให้นำรถไปแก้ไขก่อนนำกลับมาวิ่งให้บริการทุกคัน

                           อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก ใช้วิธีการตรวจหาค่าความเข้มข้นของควันว่าเกินมาตรฐานและเป็นมลพิษ ด้วยวิธีตรวจวัดด้วยระบบวัดความทึบแสง กำหนดไม่เกินร้อยละ 45 เป็นมาตรฐานตามที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17-28 มกราคม 2562 ได้สุ่มตรวจค่าควันดำรถบรรทุกและโดยสารที่วิ่งเส้นทางกรุงเทพไปยังต่างจังหวัด ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ จตุจักร สายใต้ และเอกมัย ทั้งสิ้นจำนวน 666 คัน, สุ่มตรวจรถโดยสาร ณ จุดตรวจในเขตพื้นที่ที่มีค่ามลพิษสูง จำนวน 1,086 คัน พบรถควันดำ 13 คัน และตรวจรถโดยสารประจำทาง ณ อู่รถโดยสาร ขสมก.ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,075 คัน พบรถควันดำ 23 คัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่พบเห็นรถบรรทุกและรถโดยสารมีควันดำ ให้จดจำรายละเอียดหมายเลขทะเบียนรถ เลขข้างรถ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร.1584 หากผลการตรวจสอบพบว่ารถมีควันดำตามที่ผู้ร้องเรียนได้แจ้งมาจริงจะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด


Share :



กรมการขนส่งทางบก ยกระดับ!!! มาตรการตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสาร ก่อนเข้ากรุงเทพมหานครเพิ่มจุดตรวจใน 15 จังหวัด ทั้งขาเข้าและขาออก
3 ก.พ. 2562

กรมการขนส่งทางบก ยกระดับ!!! มาตรการตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสาร ก่อนเข้ากรุงเทพมหานครเพิ่มจุดตรวจใน 15 จังหวัด ทั้งขาเข้าและขาออก รวมทั้งบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ เตือน!! พบรถควันดำ ลงโทษขั้นสูงสุดทุกราย พ่น “ห้ามใช้” และให้นำรถไปแก้ไขก่อนนำกลับมาวิ่งให้บริการ

                    วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2562) เวลา 11.00 น. ณ จุดตรวจควันดำบริเวณศูนย์โตโยต้ารังสิต ฝั่งขาออก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงานตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียรถยนต์ทุกประเภท เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภายใต้นโยบาย One Transport ปลอดฝุ่น PM2.5 ของกระทรวงคมนาคม

                 นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดตรวจสภาพรถที่ใช้งานบนท้องถนนให้มีสภาพพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย รวมถึงมีค่าควันดำจากท่อไอเสียรถยนต์ไม่เกินค่ามาตรฐาน เพื่อการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้วยการส่งผู้ตรวจการลงพื้นที่สุ่มตรวจค่าควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีค่ามลพิษสูง เช่น พื้นที่ในเขตจตุจักร เขตบางขุนเทียน, บางคอแหลม, ลาดกระบัง, ท่าเรือคลองเตย, บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ฯลฯ และการตรวจค่าควันดำในรถโดยสารเอกชนร่วมบริการ ขสมก. และ บขส. ณ อู่รถโดยสาร ขสมก.ทุกแห่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับความเข้มข้นในการแก้ปัญหาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกจะตั้งจุดตรวจควันดำเพิ่มเติมในจังหวัดรอยต่อบนถนนสายหลักและสายรองทุกเส้นทางที่มีรถบรรทุกและรถโดยสารมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานครใน 15 จังหวัด เพื่อควบคุมรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปทุมธานี นนทบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี รวมถึงเส้นทางที่ใช้เชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั้งขาเข้าและขาออก อาทิ เส้นทางสายเหนือบนถนนบางปะอิน ตลิ่งชัน-สุพรรณ, เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ บนถนนรังสิต-นครนายก ลำลูกกา, เส้นทางสายใต้บนถนนพระราม 2 เพชรเกษม บรมราชชนนี, เส้นทางสายตะวันออกบนถนนบางนาตราด สุขุมวิท มอเตอร์เวย์ เป็นต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบควันดำของรถบรรทุกที่เข้าออกสถานีขนส่งสินค้าและสุ่มตรวจการดำเนินการของสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ควบคู่กับการติดตามการทำงานของ ตรอ. อย่างใกล้ชิดผ่านศูนย์ควบคุมระบบตรวจสภาพรถ (VICC) นอกจากนี้ ยังได้โดยมอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศตรวจวัดควันดำรถโดยสารสาธารณะและรถอื่นๆ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร บนถนนสายต่างๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด หากพบมีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐาน ให้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุดทุกราย และพ่น “ห้ามใช้” รถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานทันที และให้นำรถไปแก้ไขก่อนนำกลับมาวิ่งให้บริการทุกคัน

                           อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก ใช้วิธีการตรวจหาค่าความเข้มข้นของควันว่าเกินมาตรฐานและเป็นมลพิษ ด้วยวิธีตรวจวัดด้วยระบบวัดความทึบแสง กำหนดไม่เกินร้อยละ 45 เป็นมาตรฐานตามที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17-28 มกราคม 2562 ได้สุ่มตรวจค่าควันดำรถบรรทุกและโดยสารที่วิ่งเส้นทางกรุงเทพไปยังต่างจังหวัด ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ จตุจักร สายใต้ และเอกมัย ทั้งสิ้นจำนวน 666 คัน, สุ่มตรวจรถโดยสาร ณ จุดตรวจในเขตพื้นที่ที่มีค่ามลพิษสูง จำนวน 1,086 คัน พบรถควันดำ 13 คัน และตรวจรถโดยสารประจำทาง ณ อู่รถโดยสาร ขสมก.ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,075 คัน พบรถควันดำ 23 คัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่พบเห็นรถบรรทุกและรถโดยสารมีควันดำ ให้จดจำรายละเอียดหมายเลขทะเบียนรถ เลขข้างรถ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร.1584 หากผลการตรวจสอบพบว่ารถมีควันดำตามที่ผู้ร้องเรียนได้แจ้งมาจริงจะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

   
Share :